หน้าหลัก
ITA
LPA
ประกาศจากระบบ e-GP
ประกาศจากระบบ e-GP ในเครือข่าย
องค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้
ยอมรับ
 
พระพุทธชินราช

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

หลวงพ่อเชียงแสน
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ www.buengphra.go.th
องค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระอำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
อบต.บึงพระ โทร : 055-985-111 / งานป้องกันฯ โทร : 055-000-280 / กองสวัสดิการสังคม โทร : 055-001-142
E-Mail : saraban@buengphra.go.th
1
2
3
  สถานที่สำคัญ
 
 

วัดนครไทยวราราม (วัดหัวร้องหรือวัดใต้)  (จังหวัด พิษณุโลก)
รูปชุดก่อน รูปชุดถัดไป
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย

ลำดับภาพที่ 1/6

ลำดับภาพที่ 2/6

ลำดับภาพที่ 3/6

ลำดับภาพที่ 4/6

ลำดับภาพที่ 5/6

ลำดับภาพที่ 6/6
<<
>>
X
 
ชื่อสถานที่ : วัดนครไทยวราราม (วัดหัวร้องหรือวัดใต้)
 
ที่ตั้ง : บ้านหัวร้อง หมู่ที่ 6 ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
 
ข้อมูล : ประวัติวัดนครไทยวราม (วัดหัวร้อง)
วัดนครไทยวราราม (วัดหัวร้อง) ปัจจุบันตั้งอยู่เลขที่ 200 หมู่ที่ 6 ถนนอุดรดำริห์ บ้านหัวร้อง ตำบลนครไทย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ทำการก่อสร้างขึ้นเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้างนั้นไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดแต่อย่างใด
คนเก่าคนแก่ได้เล่าขานสืบต่อกันมาว่า วัดหัวร้องเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยเมื่อครั้งพ่อขุนบางกลางท่าวได้ยกทัพไปตีกรุงสุโขทัยเมื่อประมาณปี พ.ศ.1800 หลังจากที่ได้รวบรวมไพร่พลมาอยู่ที่เมืองบางยางระยะหนึ่งแล้วดังหลักฐานที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน คือ วิหารทรงโรง และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่แกะสลักด้วยไม้สักทั้งองค์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.45 เมตร สูง 3.45 เมตร

เจดีวัดหัวร้อง
แต่เดิมวัดหัวร้อง มีชื่อเรียกว่า “วัดศรีชมชื่น” สถานที่ตั้งแต่เดิมตั้งอยู่ที่สำนักสงฆ์คลองจิกในปัจจุบัน เมื่อก่อนนั้นเป็นวัดร้างไมมีผู้ดูแล และเนื่องจากสมัยนั้นชาวบ้านได้ตั้งบ้านเรือนอยู่เหนือร่องน้ำคลองจิก จึงพากันเรียกชื่อวัดศรีชมชื่นว่า “วัดหัวร่อง” ต่อมาเพี้ยนไปเป็น “วัดหัวร้อง” ด้วยเหตุที่เป็นวัดร้างมานาน ประกอบกับไม่มีใครดูแลเมื่อเกิดมีไฟไหม้ป่าลามทุ่ง วัดหัวร้องจึงถูกไฟไหม้จนหมดสิ้น คงเหลือทิ้งไว้ให้เห็นเพียงเจดีย์ดินในปัจจุบัน ต่อมาเมื่อชาวบ้านได้ปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนมากขึ้นและรวมกันเป็นหมู่บ้าน จึงได้ทำการก่อสร้างวัดขึ้นในที่แห่งใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่แห่งเดิมประมาณ 200 เมตร คือ สถานที่ตั้งวัดหัวร้องในปัจจุบัน สมัยก่อนนั้นวัดหัวร้องยังไม่ค่อยมีผู้คนดูแล จะมีเพียงเจ้าอาวาสกับพระลูกวัดบางส่วนเท่านั้นดูแลรักษาวัด แต่ก็ไม่ได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้ จนมาถึงสมัยหลวงปู่หุยเป็นเจ้าอาวาส จึงได้เริ่มการก่อสร้างศาลาและกุฏิเพิ่มเติมจากที่เคยมีแค่วิหารและพระพุทธรูปไม้สัก ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่”
จากหลักฐานการบันทึกพบว่า วัดหัวร้องได้พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2482 จึงได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ซึ่งมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2496
เมื่อปี พ.ศ. 2516 เจ้าอาวาสและชาวบ้านเห็นว่า ศาลาและกุฏิได้เก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการรื้อถอนของเก่าออก ได้ร่วมกันพัฒนาปลูกสร้างศาลาและกุฏิขึ้นใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงพัฒนาวัดว่า “วัดนครไทยวราราม” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในเนื้อที่ทั้งหมด 6 ไร่
วัดนครไทยวรารามนอกจากมีวิหารเก่าแก่ที่มีขนาดกว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตรแล้ว ภายในวิหารยังมีศิลปกรรมพื้นบ้านเก่าแก่งดงามอ่อนช้อยประดิษฐานในวิหารเก่าทรงโรง คือ มีฐานสำเภา (เสา) เครื่องบนเป็นไม้สักก่ออิฐถือปูนทรงแปดเหลี่ยม มีบัวและปลีที่หัวเสา ที่เพดานผ้าเป็นดาวลวดลายทอง แต่ได้สูญหายไปบ้าง มีอาสน์สงฆ์ก่ออิฐถือปูนยกสูงเบื้องขวาพระประธาน และส่วนที่สำคัญของวิหารอีกประการหนึ่งคือ มีพระพุทธรูปที่ทำด้วยไม้สักทั้งองค์ ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.45 เมตร สูง 3.45 เมตร มีปูนหุ้มไว้ทั้งองค์ และปัจจุบันนี้เจ้าอาวาสและชาวบ้านได้ร่วมกันลงลักปิดทองให้ดูสวยงามสง่า และที่พิเศษคือ พระพุทธรูปไม้สักองค์นี้มีลักษณะเด่นคือ มีพระรัศมียาวใหญ่ วงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่เหมือนผลมะตูม แต่เหมือนยุคสุโขทัย มีพระอุณาโลมอยู่ระหว่างพระขน มีพระบาทใหญ่ นิ้วพระบาทเสมอกัน ฝ่าพระบาทแบนราบ ส้นพระบาทยาว ด้วยเหตุที่พระพุทธรูปไม้สักมีองค์ใหญ่ ชาวบ้านจึงขนานนามให้ว่า “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปที่สวยงามเด่นสง่าองค์หนึ่งของอำเภอนครไทย และสันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่ทำด้วยไม้สักที่องค์ใหญ่ที่สุด

ในประเทศไทย (จากผลการสำรวจของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร) หลวงพ่อใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มีสาธุชนศรัทธาเข้าไปกราบไหว้บูชา ไปขอพรและต่อชะตาสะเดาะเคราะห์เป็นประจำ และสาธุชนที่เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อใหญ่แล้วมีความเชื่อว่า การขอพรและสะเดาะเคราะห์แล้วได้อยู่เย็นเป็นสุขหายจากอาการเจ็บป่วยได้จริง

เมื่ออดีตย้อนไปเมื่อ 40 ปีก่อนนั้น วัดหัวร้องจะจัดให้มีงานฉลองสมโภชเป็นประจำทุกปีหรือเรียกกันว่า “งานประจำปีวัดหัวร้อง” วัดจะจัดให้มีการละเล่นและให้สาธุชนชาวบ้านได้เข้าไปกราบไหว้สักการะขอพรหลวงพ่อใหญ่ และได้ร่วมกันทำบุญหารายได้เพื่อสมทบทุนบำรุงพัฒนาวัด อาราม ต่อแต่นั้นมาวัดจะจัดให้มีเฉพาะเทศกาลงานต่าง ๆ เช่น เทศกาลวันตรุษ วันสงกรานต์เทศกาลวันออกพรรษา จะมีเทศมหาชาติ เป็นต้น การจัดงานประจำปีจึงได้ว่างเว้นไป จะเป็นเพราะเหตุมีวัตถุสิ่งของภายในวัดได้ถูกโจรกรรมหายไป ทำให้เจ้าอาวาสงดเว้นการจัดงานประจำปี และจำเป็นต้องปิดวิหารเพื่อป้องกันการสูญหายสิ่งของดีมีค่าภายในวิหาร จะอนุญาตและเปิดวิหารให้สาธุชนคนใดที่มีความประสงค์จะเข้าไปกราบไหว้ขอพรต่อชะตาสะเดาะเคราะห์เป็นราย ๆ ไปเท่านั้น
 
รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว

 
ผู้เข้าชม 2353 ท่าน         
 
 
เริ่มนับ วันที่ 19 ก.ค. 2556
องค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
โทรศัพท์ : 055-985-111 โทรสาร : 055-985-111
งานป้องกันฯ 055-000-280 กองสวัสดิการสังคม 055-001-142
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2551 ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 องค์การบริหารส่วนตำบลบึงพระ
จำนวนผู้เข้าชม 7,114,407 เริ่มนับ 19 ก.ค. 2556 จัดทำโดย : NAXsolution.com
นโยบายเว็บไซต์ | นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล | นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ | นโยบายคุกกี้ | แผนผังเว็บไซต์
Version ขั้นต่ำของ Browser IE9 / Firefox 3.5 / Chrome / Safari4 / Opera10